วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ข้อสอบอัตนัย

ข้อสอบอัตนัย

1. จงหาค่าของ Subnet Maskให้เขียน Defualt Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสอง ในที่นี้ 192.168.0.0 ในในคลาส A ดังนั้น Subnet Mask คือ 255.0.0.0 เมื่อเขียนเป็นเลขฐานสองจะได้เท่ากับ

เฉลย 11000000.00000000.00000000.00000000


2. จงหาค่าของ Subnet Maskให้เขียน Defualt Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสอง ในที่นี้ 192.168.0.0 ในในคลาส B ดังนั้น Subnet Mask คือ 255.255.0.0 เมื่อเขียนเป็นเลขฐานสองจะได้เท่ากับ

เฉลย 11000000.10101000.00000000.00000000

3. จงหาค่าของ Subnet Maskให้เขียน Defualt Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสอง ในที่นี้ 192.168.168.0 ในในคลาส c ดังนั้น Subnet Mask คือ 255.255.255.0 เมื่อเขียนเป็นเลขฐานสองจะได้

เฉลย 11000000.10101000. 10101000.00000000

4. จงหาค่าของ Subnet Maskให้เขียน Defualt Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสอง ในที่นี้ 169.187.0.0 เมื่อเขียนเป็นเลขฐานสองจะได้เท่า

เฉลย 10101001.10111011.00000000.00000000

5. จงหาค่าของ Subnet Maskให้เขียน Defualt Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสอง ในที่นี้ 192.168.0.0 ในในคลาส B ดังนั้น Subnet Mask คือ 255.255.0.0 เมื่อเขียนเป็นเลขฐานสองจะได้เท่ากับ

เฉลย 11000000.10101000.00000000.00000000

6. วิธีการคำนวณหา Network Address จาก Subnet Mask หาได้อย่างไร

เฉลย สมมติว่า IP Address เป็น 168.108.2.1 นำมาเขียนให้อยู่ในรูปเลขฐานสองแล้วนำมาคูณกันก็จะได้ Network Address


7.Mark 6 bit ของ Claass B ได้กี่ subnet

เฉลย 2^6 = 64 - 2 = 62 Subnet


8.mark 7bit ได้ class B หมายเลข subnetmark คือ อะไร

เฉลย 255.255.254.0 subnetmark

9. mark 2 bit ได้ class C ได้กี่ host

เฉลย 2^6=64-2=62 host

10. mark 4 bit ได้ class A ได้กี่ subnet

เฉลย 2^4 = 16 -2 = 14 subnet

ข้อสอบปรนัย

ข้อสอบปรนัย

1. IP Address : 192.0.0.0 subnet mask คือข้อใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

2. IP Address : 192.168.0.0 subnet mask คือข้อใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

3. IP Address : 192.168.199.0 subnet mask คือข้อใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

4. IP Address : 192.168.199.99 subnet mask คือข้อใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

5. subnet mask 130.5.5.25 สามารถแสดงเป็นเลขฐานสองได้เท่าใด
ก. 10000010.00000101.00000101.00011001
ข. 10000010.00000101.00000101.00001101
ค. 10000010.00000101.00000101.00010001
ง. 10000010.00000101.00000101.00011000

6. network address จะอยู่ในช่วง 1~126 ส่วน default Subnet Mask มีค่าเท่าใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

7. network address จะอยู่ในช่วง 1~126 ส่วน default Subnet Mask มีค่าเท่าใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

8. network address จะอยู่ในช่วง 128~191 ส่วน default Subnet Mask มีค่าเท่าใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

9. network address จะอยู่ในช่วง 192~ 223 ส่วน default Subnet Mask มีค่าเท่าใด
ข. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

10. network address จะอยู่ในช่วง 240~ 247 ส่วน default Subnet Mask มีค่าเท่าใด
ก. 255.0.0.0
ข. 255.255.0.0
ค. 255.255.255.0
ง. 255.255.255.255

เครือข่าย Ethernet

เครือข่าย Ethernet

1.ความหมายของIEEE 802.3IEEE 802.3 หรือ อีเทอร์เน็ต (Ethernet) เป็นเครือข่ายที่มีความเร็วสูงการส่งข้อมูล 10 เมกะบิตต่อวินาที สถานีในเครือข่ายอาจมีโทโปโลยีแบบัสหรือแบบดาว IEEE ได้กำหนดมาตรฐานอีเทอร์เน็ตซึ่งทำงานที่ความเร็ว 10 เมกะบิตต่อวินาทีไว้หลายประเภทตามชนิดสายสัญญาณเช่น•10Base5 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอกเชียลแบบหนา (Thick Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 500 เมตร

1.10Base2 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอ๊กเชียลแบบบาง (Thin Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 185 เมตร•10BaseT อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบดาวซึ่งใช้ฮับเป็นศูนย์กลาง สถานีและฮับเชื่อมด้วยสายยูทีพี (Unshield Twisted Pair) ด้วยความยาวไม่เกิน 100 เมตรรูปที่ข้างล่าง แสดงถึงลักษณะเครือข่ายอีเทอร์เน็ตแยกตามประเภทของสายสัญญาณ รหัสขึ้นต้นด้วย 10 หมายถึงความเร็วสายสัญญาณ 10 เมกะบิตต่อวินาที คำว่า “Base” หมายถึงสัญญาณชนิด “Base” รหัสถัดมาหากเป็นตัวเลขหมายถึงความยาวสายต่อเซกเมนต์ในหน่วยหนึ่งร้อยเมตร (5=500, 2 แทนค่า 185) หากเป็นอักษรจะหมายถึงชนิดของสาย เช่น T คือ Twisted pair หรือ F คือ Fiber opticsส่วนมาตรฐานอีเทอร์เน็ตความเร็ว 100 เมกกะบิตต่อวินาทีที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ 100BaseTX และ 100BaseFX สำหรับอีเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบกิกะบิตอีเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ตัวอย่างของมาตรฐานกิกะบิตอีเทอร์เน็ตในปัจจุบันได้แก่ 100BaseT, 100BaseLX และ 100BaseSX เป็นต้น อีเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล ซีเอสเอ็มเอ/ซีดี (CSMA/CD : Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection) เป็นตัวกำหนดขั้นตอนให้สถานีเข้าครอบครองสายสัญญาณ ในขณะเวลาหนึ่งจะมีเพียงสถานีเดียวที่เข้าครองสายสัญญาณเพื่อส่งข้อมูล สถานีที่ต้องการส่งข้อมูลต้องการตรวจสอบสายสัญญาณว่ามีสถานีอื่นใช้สายอยู่หรือไม่ ถ้าสายสัญญาณว่างก็ส่งข้อมูลได้ทันที หากไม่ว่างก็ต้องคอยจนกว่าสายสัญญาณว่างจึงจะส่งข้อมูลได้ ขณะที่สถานีหนึ่ง ๆ กำลังส่งข้อมูลก็ต้องตรวจสอบสายสัญญาณไปพร้อมกันด้วยเพื่อตรวจว่าในจังหวะเวลาที่ใกล้เคียงกันนั้นมีสถานีอื่นซึ่งพบสายสัญญาณว่างและส่งข้อมูลมาหรือไม่ หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นแล้ว ข้อมูลจากทั้งสองสถานีจะผสมกันหรือเรียกว่า การชนกัน (Collision) และนำไปใช้ไม่ได้ สถานีจะต้องหยุดส่งและสุ่มหาเวลาเพื่อเข้าใช้สายสัญญาณใหม่ ในเครือข่ายอีเทอร์เน็ตที่มีสถานีจำนวนมากมักพบว่าการทานจะล่าช้าเพราะแต่ละสถานีพยายามยึดช่องสัญญาณเพื่อส่งข้อมูลและเกิดการชนกันเกือบตลอดเวลา โดยไม่สามารถกำหนดว่าสถานีใดจะได้ใช้สายสัญญาณเมื่อเวลาใด อีเทอร์เน็ตจึงไม่มีเหมาะกับการใช้งานในระบบจริง

2.10 Base 210 Base 2 เป็นรูปแบบต่อสายโดยใช้สาย Coaxial มีเส้นศูนย์กลาง 1/4 นิ้ว เรียกว่า Thin Coaxial สายจะมีความยาวไม่เกิน 180 เมตรมาตรฐาน 10 Base 2 ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือการส่งข้อมูลแบบ Baseband 2 คือความยาวสูงสุด 200 เมตร (185 – 200 เมตร ) 10 Base 2 เป็นแบบเครือข่ายที่ใช้สาย Coaxial แบบบาง (Thin Coaxial) ชนิด RG-58 A/U โดยจะมี Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัว และท้ายของเครือข่าย

ข้อกำหนดของ 10 Base 2
• ใช้สาย Thin Coaxial ชนิด RG-58 A/U
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือ หัว BNC
• ห้ามต่อหัว BNC เข้ากับ LAN Card โดยตรง ต้องต่อด้วย T-Connector เท่านั้น
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่าย ต้องปิดด้วย Terminator ขนาด 50 โอมห์
• ความยาวของสายแต่ละเส้นที่ต่อระหว่าง Workstation ต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 0.5 เมตร
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 200 เมตร (185 – 200 เมตร )
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 30 เครื่อง
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 30 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeater เพื่อเพิ่ม Segment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater ( ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 1000 เมตร (200 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment)
• จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 150 เครื่อง (30 เครื่องต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment

3.10 Base 5 ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือการส่งข้อมูลแบบ Baseband
• คือความยาวสูงสุด 500 เมตร 10 Base 5 เป็นแบบเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกับ 10 Base 2 แต่จะใช้สาย Coaxial แบบหนา (Thick Coaxial หรือ Back Bone) เป็นสายชนิด RG-8 ซึ่งสายจะเป็นสีเหลืองและมีขนาดใหญ่โดย Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัว และท้ายของเครือข่าย เครือข่ายชนิด 10 Base 5 นี้ จะมีต่อจำนวนเครื่องได้มากกว่า และต่อในระยะได้ไกลกว่าแบบ 10 Base 2 แต่ในปัจจุบันมักไม่นิยมใช้กัน เนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรทราบ มีดังนี้ แผงวงจรเครือข่าย (LAN Card) คือแผงวงจรเครือข่ายที่เสียบไว้กับตัวเครื่อง และเชื่อมต่อด้วยสายเพื่อต่อเป็นเครือข่าย โดยแผงวงจรเครือข่ายนี้จะมีหัวเสียบเป็นชนิด DIX Connector Socket ( LAN Card ) ชนิด AUI ใช้กับมาตรฐาน 10 Base 5ข้อกำหนดของ 10 Base 5
• ใช้สาย Thick Coaxial ชนิด RG-8
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือหัว DIX หรือบางทีอาจจะเรียกว่า หัว AUI
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่ายต้องปิดด้วย N-Series Terminator ขนาด 50 โอมห์• ระยะห่างระหว่าง Transceiver ต้องไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร
• Transceiver Cable จะมีความยาวได้ไม่เกิน 50 เมตร
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 100 เครื่อง
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 500 เมตร
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 100 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeater เพื่อเพิ่มSegment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater (ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 2,500 เมตร (500 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment )
•จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 500 เครื่อง (100 เครื่องต่อ Segment คูณด้วย 5 Segment )

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การบ้าน ส่ง เรื่อง Basic Data Communication และ Basic IP Address

สรุป Basic Data Communication
การสื่อสารข้อมูล เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารหรือข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสาร โดยต้องมีสื่อในการโอนข้อมูลกัน เช่น สายทองแดงหรือดาวเทียม เป็นต้น การที่เราจะสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้นั้นจะต้องอาศัยทั้งฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ โดยที่คุณสมบัติพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูล ประกอบไปด้วย
1. ความถูกต้องของการส่ง (Delivery) หมายถึง ข้อมูลจะต้องสามารถไปถึงปลายทางได้อย่างถูกต้อง
2. ความถูกต้องของข้อมูล (Accuracy) หมายถึง ข้อมูลที่ไปถึงปลายทางนั้นจะต้องเหมือนกับที่ต้นทางที่ส่งไป
3. เวลาที่เหมาะสม (Timeliness) หมายถึง เวลาที่ใช้ในการเดินทางของข้อมูลนั้นต้องมีระยะเวลาที่เหมาะสมไม่นานจนเกินไป

สรุป Basic IP Address
1. อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายชนิดหนึ่ง ที่ภายในจะประกอบไปด้วยเครือข่ายย่อยๆ มากมาย
2. โปรโตคอลที่เป็นมาตรฐานของอินเทอร์เน็ตคือ TCP/IP
3. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet service provider : ISP) สามารถแบ่งออกได้เป็น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในประเทศ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในภูมิภาค และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในท้องถิ่น
4. โพรโตคอล เป็นข้อกำหนดหรือกฎของการสื่อสารข้อมูลซึ่งจะประกอบไปด้วย syntax, semantic และtiming5. มาตรฐานเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความเป็นสากล ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ สามารถที่จะนำมาใช้งานร่วมกันได้

แปลง IP-209.123.226.168
=11010001.01110001.11100001.10101000

-198.60.70.81
=11000110.00111000.01000110.01010001

CIDR
-บอกหมายเลข Subnet Mask
-บอกจำนวน Host
CIDR ที่ให้คือ

/22
11111111.11111111.11111100.00000000
= (255+255+252+0)
Subnet Mask = (255.255.252.0)
Host 2^10 = 1024 – 2 = 1022


ออกข้อสอบเรื่อง IP 5
ข้อ1.ไอพีแอดเดรสที่ใช้กันส่วนใหญ่มีกี่บิต
ก.ขนาด 32 บิตหรือ 4 ไบต์
ข.ขนาด 4บิต
ค.8บิต
ง.16บิต

2.รูปแบบของไอพีแอดเดรส
ก.มีขนาดช่องทางที่ใหญ่
ข. มีขนาด 32 บิต, ประกอบด้วยเลข 2 ส่วน
ค. มีตำเลขจำนวนมาก
ง.มี16บิต

3.ข้อใดคือเส้นทางใน subnet mask
ก.ส่ง packet โดยใช้ ethernet address
ข. อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
ค.ถ้า subnet address มีค่าเท่ากัน
ง.ไม่มีข้อถูก

4.ข้อใดเป็นการแบ่งเครือข่ายย่อย (subnet mask
ก. เป็นเลขขนาด 32 บิต
ข.บิตที่ตรงเลขเครือข่าย (netid) มีค่าเท่ากับ “1”
ค. บิตที่ตรงเลขโฮสต์ (hostid) มีค่าเท่ากับ “0”
ง.ถูกทุกข้อ

5.ข้อใดคือความสำคัญของเลขเครือข่ายและโฮสต์
ก. สื่อสารกันได้โดยใช้เฟรม data-link
ข.รวดเร็ว
ค.มีช่องทางกว้าง
ง.มีจำนวนบิตมาก


ออกข้อสอบเรื่อง CIDR 5
ข้อ1.ข้อใดคือส่วนประกอบพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูล
ก. ตัวส่งข้อมูล
ข. ช่องทางการส่งสัญญาณ
ค. ตัวรับข้อมูล
ง.ถูกทุก

ข้อ2.มาตรฐานกลางที่ใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย คือข้อใด
ก. มาตรฐาน OSI (Open Systems Interconnection Model)ซึ่งทำให้ทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ สามารถเชื่อมโยงและใช้งานใน
ข.ข้อมูลต่างๆ
ค.คอมพิวเตอร์
ง.ไม่มีข้อถูก

3.รูปแบบของการส่งสัญญาข้อมูลมีกี่รูปแบบ
ก.2.รูปแบบ
ข.3.รูปแบบ
ค4.รูปแบบ
ง.5.รูปแบบ

4.ข้อดีของใยแก้วนำแสดงคือข้อใด
ก. ป้องกันการรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้าได้มาก
ข. ส่งข้อมูลได้ระยะไกลโดยไม่ต้องมีตัวขยายสัญญาณ
ค. การดักสัญญาณทำได้ยาก ข้อมูลจึงมีความปลอดภัยมากกว่าสายส่งแบบอื่น
ง.ถูกทุกข้อ

5.ข้อดี ของการสื่อสารผ่านดาวเทียมคือ
ก.ส่งข้อมูลได้มาก และมีความผิดพลาดน้อย
ข. อาจจะมีความล่าช้าเพราะระยะทางระหว่างโลกกับดาวเทียม
ค.ถ้าสภาพอากาศไม่ดีก็อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้
ง.ไม่มีข้อถูก

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551

งานส่ง เรื่อง IP

11111111.11111111.11110000.00000000

-/20(128+64+32+16=240)

subnet Mask = 255.255.240.0

Host?? 2^12 = 4096 - 2 = 4094 Host

202.29.57.2 แปลงIP เป็น Binary แล้วอยูในคลาสอะไร

202.29.57.2 แปลงIP เป็น Binary แล้วอยูในคลาสอะไร

202. 29. 57. 2

11011010. 00011011. 00111000. 00000010


จัดอยูในคลาส C

รายชื่อเพื่อน ในห้อง 49122521

Data Communications ,Wednesday, 2008^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:kimsath sath (kimsathsath@yahoo.com)http://kimsath.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:Gus m (guszaa_m@hotmail.com)http://guszaa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายจำนงค์ ศรีมาศ (srimas2007@hotmail.com)http://jumnong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชยาพงษ์ วังตะเคน (mo.04@hotmail.com)http://thekop-momo.blogspot.com^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sulak Phonboon (sulak_laky@hotmail.com)http://sulak-noy.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:khamsan khampang (khampang3@hotmail.com)http://khampang.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชาตรี แก้วมณี (chatree_05@thaimail.com)http://chatree-ton.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:มยุลี เสมศรี (mayulee8787@hotmail.com)http://mayulee8787.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาว จันทร์ กฤษวี (janjun1@hotmail.com)http://janjun.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาวประภาศิริ สุทธิหนู(nemo_yung@hotmail.com)http://lylulnlgl.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sam an leakmuny (leakmuny@yahoo.com)http://leakmuny-sam.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ณัชพร ไชยมูล (clash_oud@hotmail.com)http://khukhan-bantim.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:วาฤดี สัมนา (waruedee_49@hotmail.com)http://waruedee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:warawood wisetmuen (nicnicnic_02@hotmail.com)http://warawood.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:r y (overnarn@hotmail.com)http://tcomtoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สุพรรษา ท่วาที (supansa_56@hotmail.com)http://puy-supansa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:อรอุมา พละศักดิ์ (tep_ratree@hotmail.com)http://tepratree.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สายรุ่ง พงษ์วัน (sayrung_@hotmail.com)http://koraikoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ศิริกัญญา ศิริญาณ (tumkatong@gmail.com)http://tumkatong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:พรพรรณ สังขาว (aaa.37@hotmail.com)http://oake-pornpan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายเทิดศักดิ์ บุญรินทร์ (ton_therdsak783@hotmail.com)http://tonstaff.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ (nipoon_karn@hotmail.com)http://karnline.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ทัสนีย์ ประสาร (tatsanee_1234@thaimail.com)http://ningza-tatsanee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:wasan dujda (nong2445572@hotmail.com)http://newcastle-wasan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ์ (kan-49@hotmail.com)http://teerapon123.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sophang sophaly (phangsophaly@hotmail.com)http://sophaly-phang.blogspot.com/

ข้อสอบ OSI MODEL

1. การสื่อสารข้อมูลหมายถึงอะไร
ก. การติดต่อกันระหว่างผู้รับข้อมูลและผู้ส่งข้อมูล
ข. การแลกเปลี่ยนโอนย้ายข้อมูลระหว่างสถานที่ 2 แห่ง
ค. การถ่ายโอนข้อมูลโดยใช้สื่อระหว่างผู้รับและผู้ส่ง
ง. ถูกทุกข้อ

2. OSI คืออะไร
ก. อุปกรณ์ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูล
ข. อุปกรณ์สำคัญในเครือข่ายที่ใช้โอนย้ายข้อมูล
ค. มาตรฐานที่ใช้ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย
ง. มาตรฐานที่ใช้รับ-ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ

3 ใน OSI Model ส่วนผู้ใช้คือข้อใด
ก. Physical, Datalink
ข. Transport, Session
ค. Presentation, Application
ง. Network , Application

4. ชั้นช่างสุด ของการติดต่อสื่อสารคือข้อใด
ก. Application
ข. Presentation
ค. Physical
ง. Datalink

5. รูปแบบของการส่งสัญญาณข้อมูล มีกี่แบบ
ก. 2
ข. 3
ค. 4
ง. 5

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ข้อสอบแอสกี

1. W ในรหัสแอสกีคื่อตัวอะไร
ก. 30
ข.40
ค.57
ง.55

2. O ในรหัสแอสกีคือตัวอะไร
ก.55
ข.56
ค.4F
ง.4B

3. บิดาของระหัสแอสกีคือใคร
ก. เบเมอร์
ข.บิลเกส
ค.อชิระ
ง.จำนงค์

แนะนำตัวเอง

ชื่อ นายวรวุฒิ วงษ์ขันธ์
วิทยาการคอมพิวเตอร์ ปี 3 ห้อง 1
รหัส 4912252115
ชื่อเล่น ตู้
เบอร์โทรศัพท์ 0853055642

งาน
M R . W O R A W O O T

4D, 52, 2E, 57, 4F, 41, 57, 4F , 4F, 54
0100 1101,0101 0010,0010 1110,0101 0111,0100 1111,0100 0001,0101 0111,0100 1111,0100 1111, 0101 0100

W O N G K H A N
57, 4F, 4E, 47, 4B, 48, 41, 4E
0101 0111,0100 1111,0100 1110, 0100 0111, 0100 1011,0100 0001,0100 1110

เบอร์โทรศัพท์
0853055642
30,38,35,33,30,35,35,36,34,32
0011 0000,0011 1000,0011 0101,
0011 0000,0011 0101,0011 0101,0011 0110,0011 0100,0011 0010